10 อันดับ เครื่องพิมพ์ฉลากบาร์โค้ด 2025 ยี่ห้อไหนดี
สารบัญ
- 1. Niimbot B21 เครื่องพิมพ์ฉลากบาร์โค้ดแบบพกพา เครื่องพิมพ์ความร้อน เชื่อมต่อบลูทูธ ใช้งานได้ทั้ง iOS และ Android
- 2. Niimbot B1 เครื่องพิมพ์ฉลากและแท็กราคาแบบพกพา เครื่องพิมพ์สติกเกอร์บาร์โค้ดไร้หมึก เชื่อมต่อบลูทูธ รองรับ iOS และ Android
- 3. WELPACK รุ่น D520 เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน เครื่องปริ้นใบปะหน้าไร้หมึก เชื่อมต่อบลูทูธ รองรับทุกขนส่ง
- 4. BARIGAN รุ่น BG-IN20 เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน Thermal Printer สำหรับพิมพ์ใบปะหน้า รองรับทุกขนส่ง
- 5. BARIGAN รุ่น GG-9200BL เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน พิมพ์ใบปะหน้าพัสดุ ฉลากยา และฉลากขนส่ง เชื่อมต่อผ่านมือถือได้
- 6. Gprinter รุ่น GS2408DC เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน เครื่องปริ้นใบปะหน้า บาร์โค้ด และฉลากสินค้า Thermal Printer
- 7. BARIGAN GG-IN10 เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน USB + Bluetooth พิมพ์ใบปะหน้าพัสดุ ไม่ต้องใช้หมึก
- 8. Gprinter รุ่น AE241 เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน Thermal Printer พิมพ์ใบปะหน้า ฉลากสินค้า และบาร์โค้ด ไม่ต้องใช้หมึก
- 9. Gprinter รุ่น AS240 เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน Thermal Printer พิมพ์ใบปะหน้า ฉลากสินค้า และบาร์โค้ด ไม่ต้องใช้หมึก
- 10. Deli รุ่น ES421 เครื่องพิมพ์ใบเสร็จและฉลากแบบพกพา ความละเอียด 203 DPI เชื่อมต่อ Bluetooth ไม่ต้องใช้หมึก
10 อันดับ เครื่องพิมพ์ฉลากบาร์โค้ด 2025 ยี่ห้อไหนดี
Niimbot B21 เครื่องพิมพ์ฉลากบาร์โค้ดแบบพกพา เครื่องพิมพ์ความร้อน เชื่อมต่อบลูทูธ ใช้งานได้ทั้ง iOS และ Android
- ไม่ต้องใช้หมึก ประหยัดและสะดวก
- พิมพ์ชัดด้วยความละเอียด 203 dpi
- เชื่อมต่อ Bluetooth ใช้งานง่ายผ่านแอป
- รองรับทั้ง iOS และ Android
- หัวพิมพ์อัจฉริยะ ช่วยประหยัดกระดาษ
- ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
Niimbot B1 เครื่องพิมพ์ฉลากและแท็กราคาแบบพกพา เครื่องพิมพ์สติกเกอร์บาร์โค้ดไร้หมึก เชื่อมต่อบลูทูธ รองรับ iOS และ Android
- ไม่ต้องใช้หมึก พิมพ์ชัดด้วยเทคโนโลยีความร้อน
- เชื่อมต่อ Bluetooth ใช้งานง่ายกับสมาร์ตโฟน
- หัวพิมพ์อัจฉริยะ ประหยัดฉลากและลดต้นทุน
- รองรับหลายรูปแบบการพิมพ์ทั้งข้อความ ภาพ และบาร์โค้ด
- รองรับทั้ง iOS, Android, แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์
- ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวกทุกที่
WELPACK รุ่น D520 เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน เครื่องปริ้นใบปะหน้าไร้หมึก เชื่อมต่อบลูทูธ รองรับทุกขนส่ง
- พิมพ์ด้วยระบบความร้อนไม่ต้องใช้หมึก
- ความเร็วสูง พิมพ์ได้ถึง 150 มม./วินาที
- เชื่อมต่อได้ทั้ง USB และบลูทูธ
- รองรับทุกระบบขนส่ง Shopee, Lazada, Flash, Kerry, SCG
- มีระบบตัดกระดาษอัตโนมัติและเซ็นเซอร์หยุดกระดาษ
- ขนาดกะทัดรัด ใช้งานได้นานถึง 12 ชั่วโมงต่อเนื่อง
BARIGAN รุ่น BG-IN20 เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน Thermal Printer สำหรับพิมพ์ใบปะหน้า รองรับทุกขนส่ง
- ไม่ต้องใช้หมึก พิมพ์ด้วยระบบความร้อน
- เชื่อมต่อได้หลายรูปแบบ USB, Bluetooth, Wi-Fi
- รองรับทุกแพลตฟอร์มขนส่ง Shopee, Lazada, Flash, Kerry
- หัวพิมพ์นำเข้าจากญี่ปุ่น คมชัดและทนทาน
- มีโปรแกรมออกแบบฉลากในตัว
- รับประกัน 1 ปี พร้อมบริการหลังการขายในไทย
BARIGAN รุ่น GG-9200BL เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน พิมพ์ใบปะหน้าพัสดุ ฉลากยา และฉลากขนส่ง เชื่อมต่อผ่านมือถือได้
- พิมพ์ด้วยระบบความร้อน ไม่ต้องใช้หมึก
- เชื่อมต่อผ่านมือถือได้ทั้ง Android และ iOS
- รองรับการพิมพ์ใบปะหน้า ฉลากยา และฉลากสินค้า
- หัวพิมพ์ทนทาน รับประกันสูงสุด 1 ปี
- ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับร้านค้าและธุรกิจทุกประเภท
- พิมพ์คมชัด รวดเร็ว ประหยัดเวลาและต้นทุน
Gprinter รุ่น GS2408DC เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน เครื่องปริ้นใบปะหน้า บาร์โค้ด และฉลากสินค้า Thermal Printer
- พิมพ์ด้วยระบบความร้อนไม่ต้องใช้หมึก
- รองรับกระดาษ Direct Thermal ทั้งแบบพับและม้วน
- เชื่อมต่อได้ทั้งคอมพิวเตอร์และมือถือ
- พิมพ์คมชัด ความละเอียด 203 dpi
- รองรับการพิมพ์ฉลาก ใบปะหน้า และบาร์โค้ด
- มีบริการติดตั้งและดูแลหลังการขาย
BARIGAN GG-IN10 เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน USB + Bluetooth พิมพ์ใบปะหน้าพัสดุ ไม่ต้องใช้หมึก
- พิมพ์ด้วยระบบความร้อน ไม่ต้องใช้หมึก
- เชื่อมต่อได้ทั้ง USB กับคอม และ Bluetooth กับมือถือ
- รองรับหน้ากว้าง 20–110 มม. พิมพ์ต่อเนื่องได้
- ความละเอียด 203 dpi คมชัดทุกรายละเอียด
- ใช้งานง่ายทั้งบนคอมและมือถือ พร้อมรับประกันตัวเครื่อง 1 ปี
Gprinter รุ่น AE241 เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน Thermal Printer พิมพ์ใบปะหน้า ฉลากสินค้า และบาร์โค้ด ไม่ต้องใช้หมึก
- พิมพ์ด้วยระบบความร้อนไม่ต้องใช้หมึก
- ความละเอียด 203 dpi พิมพ์คมชัดทุกงาน
- ความเร็วสูง 150 มม./วินาที ประหยัดเวลา
- รองรับกระดาษ 40–110 มม. ทั้งแบบม้วนและพับ
- ใช้งานได้กับ Windows / Mac / มือถือ (Bluetooth เฉพาะรุ่น BT)
- มีโปรแกรมและบริการรีโมตช่วยติดตั้งพร้อมใช้งาน
Gprinter รุ่น AS240 เครื่องพิมพ์ฉลากความร้อน Thermal Printer พิมพ์ใบปะหน้า ฉลากสินค้า และบาร์โค้ด ไม่ต้องใช้หมึก
- เครื่องพิมพ์ระบบความร้อน ไม่ต้องใช้หมึก
- ความละเอียด 203 DPI พิมพ์คมชัด รวดเร็ว 150 มม./วินาที
- รองรับการพิมพ์ผ่าน USB และ Bluetooth (เฉพาะรุ่น BT)
- ใช้งานได้กับ Windows / Mac / Android / iOS
- รองรับกระดาษกว้าง 15–115 มม. หลายรูปแบบ
- มาพร้อมบริการติดตั้งฟรีและกระดาษสติ๊กเกอร์ 1 ม้วน
Deli รุ่น ES421 เครื่องพิมพ์ใบเสร็จและฉลากแบบพกพา ความละเอียด 203 DPI เชื่อมต่อ Bluetooth ไม่ต้องใช้หมึก
- พิมพ์ด้วยระบบความร้อนไม่ต้องใช้หมึก
- ความละเอียดสูงสุด 203 DPI พิมพ์ชัดทุกข้อความ
- เชื่อมต่อ Bluetooth รองรับ Android และ iOS
- ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- แบตเตอรี่ 2000 mAh ใช้งานได้นาน
- เหมาะสำหรับร้านค้าและธุรกิจเคลื่อนที่
แบรนด์ยอดนิยม
Niimbot Official Store
Welpack Official Store
Barigan Official Store
Gprinter Official Store
Deli Office Official Store
วิธีการเลือกซื้อ เครื่องพิมพ์ฉลากบาร์โค้ด
การเลือกเครื่องพิมพ์ฉลากบาร์โค้ดให้เหมาะกับการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้การจัดการสินค้าเป็นระบบและลดความผิดพลาดในการทำงานได้ มาดูคุณสมบัติหลักที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจซื้อกันครับ
1. ประเภทของเครื่องพิมพ์
เลือกให้เหมาะกับลักษณะงาน
-
Direct Thermal (ความร้อนโดยตรง) – ไม่ต้องใช้หมึก เหมาะกับงานที่ไม่ต้องเก็บฉลากไว้นาน เช่น ฉลากพัสดุ หรือบาร์โค้ดสินค้าชั่วคราว
-
Thermal Transfer (ใช้หมึกริบบอน) – ใช้งานร่วมกับริบบอนให้ความคงทนสูง เหมาะกับฉลากที่ต้องการอายุการใช้งานยาว เช่น สินค้าในคลังหรือสินค้าที่ต้องทนต่อความร้อนและแสง
2. ความละเอียดในการพิมพ์ (DPI)
เป็นตัวบ่งบอกความคมชัดของตัวอักษรและบาร์โค้ด
-
203 DPI – เพียงพอสำหรับฉลากทั่วไปและบาร์โค้ดมาตรฐาน
-
300 DPI ขึ้นไป – เหมาะสำหรับฉลากขนาดเล็ก หรืองานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น โลโก้หรือ QR Code
3. ความเร็วในการพิมพ์
เลือกตามปริมาณงานที่ต้องพิมพ์ต่อวัน
-
ความเร็ว 100–200 มม./วินาที เหมาะกับร้านค้าขนาดเล็ก
-
ความเร็ว 300 มม./วินาทีขึ้นไป เหมาะกับโรงงานหรือธุรกิจที่พิมพ์จำนวนมากต่อวัน
4. ขนาดของฉลากที่รองรับ
ตรวจสอบขนาดม้วนสติ๊กเกอร์ที่เครื่องรองรับ เช่น
-
ความกว้างของฉลาก (เช่น 20–108 มม.)
-
เส้นผ่านศูนย์กลางของม้วนกระดาษ (เช่น 50–100 มม.)
เพื่อให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานกับฉลากหรือสติ๊กเกอร์ที่คุณต้องการได้พอดี
5. ระบบการเชื่อมต่อ
ควรเลือกเครื่องที่มีพอร์ตเชื่อมต่อเหมาะกับอุปกรณ์ของคุณ
-
USB – มาตรฐานทั่วไป ใช้งานง่ายกับคอมพิวเตอร์
-
Bluetooth / Wi-Fi – เหมาะกับงานที่ต้องการความคล่องตัวหรือใช้งานผ่านมือถือ
-
LAN (Ethernet) – ใช้ในองค์กรหรือโรงงานที่ต้องแชร์เครื่องพิมพ์หลายเครื่อง
6. ซอฟต์แวร์และความเข้ากันได้
เครื่องควรรองรับโปรแกรมออกแบบฉลาก เช่น BarTender, NiceLabel, หรือ Label Printer Utility รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับระบบขายหน้าร้าน (POS) หรือโปรแกรมสต็อกสินค้าได้ง่าย
7. วัสดุและความทนทานของเครื่อง
หากต้องใช้งานต่อเนื่อง ควรเลือกเครื่องที่มีโครงสร้างแข็งแรง ระบายความร้อนได้ดี และผ่านการทดสอบมาตรฐานอุตสาหกรรม เพื่อยืดอายุการใช้งาน
8. บริการหลังการขายและอะไหล่
เลือกแบรนด์ที่มีศูนย์บริการในประเทศและมีอะไหล่สำรอง เช่น หัวพิมพ์, ริบบอน, หรือม้วนสติ๊กเกอร์ เพื่อความมั่นใจในระยะยาว
9. งบประมาณและต้นทุนต่อการพิมพ์
คำนวณทั้ง ราคาซื้อเครื่อง และ ต้นทุนวัสดุสิ้นเปลือง เช่น กระดาษฉลากและริบบอน เพื่อให้ได้รุ่นที่คุ้มค่าที่สุดตามปริมาณการใช้งานจริง
10. ฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ
บางรุ่นมีฟังก์ชันเพิ่มเติม เช่น
-
ระบบตัดฉลากอัตโนมัติ (Auto Cutter)
-
การพิมพ์สองหน้า
-
หน้าจอแสดงผล LCD
เลือกตามความจำเป็นเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน
สรุป
ก่อนซื้อเครื่องพิมพ์ฉลากบาร์โค้ด ควรพิจารณาจาก ประเภทการพิมพ์, ความละเอียด, ความเร็ว, การเชื่อมต่อ, และความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์ รวมถึงบริการหลังการขาย เพื่อให้ได้เครื่องที่ตอบโจทย์งานของคุณมากที่สุด ทั้งในด้านประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในระยะยาว